Skip to content Skip to main navigation Skip to footer

มติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 มติ 5 นโยบายสนับสนุนพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะ

คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้

               1. รับทราบมติสมัชชาสุขภาพแห่งชาติครั้งที่ 3 พ.ศ. 2553 เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2553 มติ 5 นโยบายสนับสนุนพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะ ตามมติคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ 1/2554 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2554 ตามที่สำนักงานคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติเสนอ ดังนี้

                   1.1 ขอให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้การสนับสนุนพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะ เป็นนโยบายสำคัญ โดยมอบให้สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นแกนประสานการดำเนินงานโดยขอความร่วมมือจากสมาคมองค์การบริหารส่วนจังหวัดแห่งประเทศไทย สมาคมสันนิบาตเทศบาลแห่งประเทศไทย สมาคมองค์การบริหารส่วนตำบลแห่งประเทศไทย เพื่อให้เกิดคณะกรรมการที่เป็นกลไกการดำเนินการ ประกอบด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดการชุมชนท้องถิ่น ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาชน โดยให้มีผู้แทนชุมชน ในสัดส่วนไม่น้อยกว่าร้อยละ 60

                   1.2 ขอให้สมาชิกสมัชชาสุขภาพแห่งชาติพิจารณากำหนดเรื่องพื้นที่จัดการตนเองเพื่อสังคมสุขภาวะเป็นหนึ่งในระเบียบวาระของสมัชชาสุขภาพเฉพาะพื้นที่ ทั้งนี้ เพื่อติดตาม ประเมินผลแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาพื้นที่ทุกระดับภายในจังหวัด

                   1.3 ขอให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นโดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดเป็นองค์กรหลักในการสนับสนุนงบประมาณ และประสานการดำเนินงานร่วมกับสภาองค์กรชุมชน เครือข่ายองค์กรชุมชน เครือข่ายภาคประชาสังคม เครือข่ายสมัชชาสุขภาพจังหวัด เครือข่ายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายในจังหวัดใช้เงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 66 มาตรา 78(3) มาตรา 87(1) และ (4) และมาตรา 163 ดำเนินการออกแบบและผลักดันให้ชุมชนท้องถิ่นมีบทบาทในการจัดการตนเองตามรูปแบบที่เหมาะสม

               2. ให้คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงมหาดไทยและสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการตั้งงบประมาณสนับสนุนจากท้องถิ่น ไม่ควรกำหนดสัดส่วนไว้เป็นการเฉพาะ แต่ควรขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความพร้อมและสถานการณ์คลังขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) และเห็นควรระบุเจ้าภาพหลักในการประสานการจัดตั้งแกนประสานการดำเนินการเพื่อให้เกิดคณะกรรมการที่มีหน้าที่พัฒนากลไกการจัดการตนเองและพัฒนาศักยภาพชุมชนท้องถิ่นให้จัดการตนเองในทุกระดับ ส่วนการให้องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เป็นหน่วยงานหลักในการสนับสนุนงบประมาณ ต้องขึ้นอยู่กับศักยภาพและสถานะทางการคลังของ อปท. เป็นหลัก ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

              3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปพิจารณาดำเนินการตามมติที่เกี่ยวข้องต่อไป ดังนี้

                   3.1 การเข้าไปมีส่วนร่วมของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตามมติดังกล่าวให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ของหน่วยงานและอยู่ภายในกรอบของกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

                   3.2 กรณีเรื่องงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่กฎหมายหรือระเบียบกำหนด

                   3.3 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยบัญญัติให้รัฐต้องให้ความเป็นอิสระแก่ อปท. และให้ อปท. มีความเป็นอิสระในการกำหนดนโยบาย การบริหาร การเงินการคลัง และมีอำนาจหน้าที่ของตนเองโดยเฉพาะ ดังนั้น การดำเนินการตามมติดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อความเป็นอิสระของ อปท.

admin
Author: admin